ที่แม่น้ำนี้ตรงไหนมีตอไม้ให้เราเหยียบได้บ้าง เราก็เลยกระโดดข้ามไปได้เหมือนมีวิชาตัวเบาสามารถเหยียบบนผิวน้ำได้ เจ้าเด็กโง่....
เจ้ายังไม่รู้อะไร เจ้าจะทำตามได้อย่างไร เจ้าเด็กโง่" ก่อนเด็กหนุ่มจะได้รู้เคล็ดลับของผู้เฒ่า เล่นเอาเขาเกือบจมน้ำตาย นิทานเรื่องนี้
สอนให้เรารู้ว่า การที่จะทำอะไรให้ประสบผลสำเร็จ เราต้องศึกษาให้ถ่องแท้ว่าผู้ที่เขาประสบความสำเร็จเขามีเคล็ดลับอะไร มีประสบการณ์มาอย่างไร อย่าตัดสินว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันง่ายเหมือนอย่างที่เราเห็น เพราะมันสามารถทำให้เราจมน้ำตายได้ นิทานเรื่องนี้เราสามารถใช้เครื่องมือในการบริหารอย่างหนึ่งมาช่วยได้ ซึ่งจะทำให้เด็กหนุ่มสามารถเดินบนน้ำได้อย่าง 2 ผู้เฒ่า โดยที่ไม่ต้องใช้เวลานานนับสิบ ๆ ปีดังเช่น 2 ผู้เฒ่าและมีโอกาสตกน้ำได้น้อยที่สุด นั่นคือ "Benchmarking" เป็นกระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้
ประสบการณ์และวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ จากองค์กรอื่น ภายใต้กฏกติกาสากลโดยมีแนวคิดที่ว่า องค์กรไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ยังมีองค์กรที่เก่งกว่าในบางเรื่อง การศึกษาจากประสบการณ์ตรงขององค์กรอื่นแล้วนำมาประยุกต์ให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดเวลาและลดการลองผิดลองถูก ทำให้ "Benchmarking" เป็นเส้นทางลัดสู่ความเป็นเลิศอย่างก้าวกระโดด โดยผลที่ได้รับจากการทำ "Benchmarking"คือทำให้เรารู้ว่าใครเป็นผู้ปฏิบัติได้ดีที่สุดและมีวิธีปฏิบัติอย่างไร
(ขอขอบคุณบทความจาก "maymi Aug 25 2007")